ประวัติคริสตจักรภาคที่ 2



                    การสถาปนาคริสตจักรในเชียงราย ในปี ค.ศ.1885  ทางราชการได้ประกาศรวมเอาเมืองเชียงแสน  เชียงราย  เมืองลำปาง  เมืองฝาง  เวียงป่าเป้า  เมืองพะเยา  เมืองเชียงคำ  และเมืองเชียงของ เข้าเป็น “จังหวัดพายัพภาคเหนือ”   อันเป็นส่วนหนึ่งของมณฑลพายัพจนกระทั่งปี ค.ศ. 1890 (พ.ศ.2433)  ได้รวมหัวเมืองต่างๆ  ตั้งเป็นเมืองจัตวา เรียกว่า “เมืองเชียงราย”  โดยเกณฑ์ผู้คนจากเชียงใหม่  ลำพูน  ลำปาง  มาตั้งภูมิลำเนาในเขตเมืองเชียงราย  ทางด้านมิชชันนารี  ศจ.ดร.ดาเนียล  แมคกิลวารี  ได้มาสำรวจเชียงรายก่อนหน้าแล้ว  เมื่อ ค.ศ.1874  ได้ส่งเสริมให้คริสเตียนอพยพไปตั้งหลักแหล่งในเมืองเชียงราย  โดยอพยพมาจากบ้านแม่ดอกแดง  อ.ดอยสะเก็ด  จ.เชียงใหม่  มีครอบครัวนายอ้ายตื้อ  มาตั้งรกรากอยู่บ้านป่าอ้อนางแล  (ต่อมาได้เลื่อนยศเป็นพระยาภักดีราชกิจ)  ส่วนครอบครัวของหนานสุวรรณไปตั้งรกรากที่อำเภอเชียงแสนในปี ค.ศ.1888  และได้สถาปนาคริสตจักรเชียงแสนขึ้นเป็นแห่งแรกในเดือนเมษายน  ค.ศ.1888  โดยมีหนานสุวรรณเป็นหัวหน้าเถ้าแก่ (ผู้ปกครอง)  เมื่อถึงวันที่ 7 เมษายน ค.ศ.1890   ได้ก่อตั้งคริสตจักรแม่กรณ์  บ้านสวนดอก  และต่อจากนั้นวันที่ 13 เมษายน ค.ศ.1890  ก็ได้สถาปนาคริสตจักรเชียงรายขึ้นอีกแห่งหนึ่ง  โดยมีการสถาปนาผู้ปกครองคือ เถ้าแก่น้อยศรี เถ้าแก่อินตา  สิงหเนตร  เถ้าแก่หนานสุวรรณ   พระยาภักดีราชกิจ  ลุงน้อยศรีวงค์  และ ศจ.ดร.ดาเนียล  แมคกิลวารี  ดำรงตำแหน่งเป็นศิษยาภิบาลในระหว่าง ค.ศ. 1890 – 1896  คริสตจักรเชียงรายในระยะแรกมีสมาชิกผู้ใหญ่ 50 คน และสมาชิกสำรอง 34 คน  (ส่วนใหญ่โอนย้ายมาจากเชียงใหม่) ที่อยู่ในเชียงรายจริงๆ  ก็มีลุงแสนกัตน้องชายครูหนานตา  (ศาสนาจารย์คนแรกในภาคเหนือ)  และครอบครัวแม่หม้ายแสงเนเท่านั้น  ต่อมาก็สถาปนาคริสตจักรสามัคคีธรรม  คริสตจักรนางแล  (มกราคม ค.ศ.1906)  คริสตจักรเชียงราย (17 กันยายน ค.ศ.1914)   คริสตจักรเมืองพาน  (สิงหาคม ค.ศ.1915)  คริสตจักรสวนดอก  (12 กันยายน ค.ศ.1915)

                ปี ค.ศ.1897  ครอบครัว ศจ.ดับบลิว  ซี. ดอด์ด  กับครอบครัว ศจ.ซี.เอช. เดนแมน  ได้เดินทางมาตั้งสถานีมิชชั่นที่เชียงราย และรับผิดชอบงานมิชชันแทน  ศจ.ดร.ดาเนียล  แมคกิลวารีในช่วงปี  1896 – 1928  ศจ.ดับบลิว  ซี. ดอร์ด  นอกจากประจำสถานีมิชชั่นเชียงรายแล้ว  ท่านยังเดินทางด้วยเท้าไปประกาศถึงฝั่งทะเลกวางตุ้งของจีนด้วย  ท่านทำงานที่เชียงรายรวม 32 ปี

                ปี ค.ศ. 1903  ดร.ดับบลิว. เอ. บริกส์  และภรรยามาประจำที่เชียงราย มีคริสตจักรเกิดขึ้นอีก   3 แห่ง   ส่วน  คริสตจักรเชียงราย ได้นมัสการที่บ้านของพระยาภักดีราชกิจ (นายอ้ายตื้อ)  บ้านหลังนี้ผู้ปกครองเมืองเชียงรายได้เกณฑ์ราษฎรตัดไม้สักมาปลูกบ้านให้พระยาภักดีราชกิจ (ผู้ชอบพอรักใคร่ของผู้ปกครองเมืองเชียงราย)  จากนั้นพ่อเลี้ยงบริกส์ก็ได้สร้างโบสถ์ชั่วคราวด้วยไม้ไผ่หลังคามุงด้วยหญ้าคาในบริเวณของโรงพยาบาลโอเวอร์บรุ๊ค  ขณะเดียวกันนายแพทย์เอบริกส์เห็นว่าการศึกษาก็สำคัญเหมือนกัน  จึงได้สร้างโรงเรียนแบบเป็นห้องโถงเล็กๆ (ปัจจุบันใช้เป็นห้องประชุม – นมัสการพระเจ้า)  ในขณะนั้นใช้เป็นโรงเรียนผู้หญิงเรียกชื่อว่า โรงเรียนสตรีวิชาคาร  ตามภาษาชาวบ้านเรียกว่า โรงเรียนบ้านใต้ส่วนโรงเรียนบ้านเหนือคือ โรงเรียนชาย ก็สร้างเป็นห้องโถงขนาดเท่าๆ กับโรงเรียนสตรี                   วิชาคารเรียกชื่อว่า  ตึกเคนเนดี (ได้รื้อไปแล้ว คือ  ที่ตั้งในบริเวณของโรงเรียนเชียงรายวิทยาคมแผนกประถมปัจจุบัน)  ครั้นมาถึงปี ค.ศ.1910 ต่อมาก็ได้มีมิชชันนารี  เพรสไบทีเรียนอเมริกันชื่อ  ศาสนทูตเรย์ ดับเบิลยู  แบคแทลล์  และศาสนาทูต  แอล เจ บีบี  มารับผิดชอบงานแทนจนถึงเวลาสงครามโลกครั้งที่ 2 มิชชันนารีก็พากันอพยพออกนอกประเทศตามคำสั่งของรัฐบาลไทยในสมัยนั้น

                ตั้งแต่นั้นมาอาคารห้องประชุมนมัสการก็ได้รับการปรับปรุงซ่อมแซมบางส่วนที่จะเป็นอันตรายแก่ผู้มาใช้บริการตามแต่ละสมัยของเจ้าหน้าที่คริสตจักรภาคนั้นๆ   ตามกำลังทรัพย์ที่ได้รับการสนับสนุนจากที่ต่างๆ  เพราะอาคารหลังนี้สร้างนานมาถึง 104  ปีมาแล้ว (ตั้งแต่ ค.ศ.1903)  ในปัจจุบันนี้ก็มีหลายอย่างที่ควรได้รับการบูรณะซ่อมแซมในส่วนที่จำเป็นตามที่ได้เสนอรายการมาให้ฝ่ายทรัพย์สินสภาคริสตจักรฯได้พิจารณา

                ปัจจุบันคริสตจักรภาคที่ 2 เชียงราย  มี ศจ.เจษฎา  ยะรินทร์  เป็นประธานคริสตจักรภาคที่ 2 เชียงราย    (ปี คศ.2011 – ปัจจุบัน)  มีคริสตจักร / หมวดคริสเตียน รวม 165 แห่ง